Write Once, Read Anywhere
ช่วงนี้งานอดิเรกเป็น Objective-C ครับ สำหรับใครที่เคยเจอว่า new file หรือ new project แล้ว file template แสดงชื่อบริษัทเป็น __MyCompanyName__ วิธีแก้ให้พิมพ์คำสั่งนี้ใน terminal (แทน www.choopong.com ด้วยชื่อบริษัทของคุณ) จากนันก็ restart Xcode ใหม่ก็จะได้ชื่อบริษัทที่ต้องการเวลา new file หรือ new project แล้วละครับ defaults write com.apple.Xcode PBXCustomTemplateMacroDefinitions -dict ORGANIZATIONNAME “www.choopong.com”
วันนี้มีโจทย์มาว่าใน Flash (Windows App) ต้องทำ Link ให้สามารถเปิดสิ่งต่อไปนี้ได้ 1. PowerPoint file (*.ppt) 2. E-Mail Client (mailto:) 3. Windows Live Messenger (exe file) 4. Skype (exe file) 5. Google Talk (exe file) สองตัวแรกไม่มีปัญหา – PowerPoint file ใช้ fscommand เปิด ppt file ที่อยู่ใน fscommand folder ได้ เพราะอยู่ใน sandbox อยู่แล้ว – mailto นี่ตรงไปตรงมาทำ URL เป็น mailto:who@where.com ก็ได้เลย ไอ้สามตัวหลังนี่แหละที่มีปัญหา ถ้าดูตามเอกสาร…
บริเวณที่ปิดการจราจรและห้ามเข้าพื้นที่เด็ดขาด มีดังนี้ 1 ถ.เพชรบุรี ตั้งแต่ แยกขึ้นทางด่วนเพชรบุรี ถึง สี่แยกราชเทวี 2 ถ.พญาไท ตั้งแต่ สี่แยกราชเทวี ถึง สี่แยกสามย่าน 3 ถ.วิทยุ ตั้งแต่ สี่แยกถ.วิทยุ ถึง แยกขึ้นทางด่วนเพชรบุรี 4. ถนนในพื้นที่ต้องห้าม ตามข้อ 1 – 3 จนถึงแนวพระราม 4 5. ถ.ราชปรารภ ถึง สี่แยกประตูน้ำ ถึง สี่แยกมักกะสัน 6. ถ.ศรีอยุธยา จากแยกหมอเหล็ง มุ่งหน้ าแยกศรีอยุธยา 7. ถ.สามย่าน จนถึง ปากซอยงามดูพลี 8. ตึกใบหยก2 ถึง แยกราชปรารภ ถึง แยกดินแดง ***[บริเวณนี้ห้ามเข้าเด็ดขาดทหารใช้กระสุน จริง] 9. แยกราชปรารถ ถึง ซ.รางน้ำ…
ต่อจากครั้งที่แล้ว วิธีการดึง Feed ของ SMF เฉพาะ New Topics อาจจะเคยเจอปัญหาว่า Feed Reader เก็บกระทู้ได้ไม่หมด เนื่องจากว่าค่า Default ของ SMF จะคืน Feed ให้ครั้งละ 5 Items เท่านั้น ทำให้ถ้า Feed Reader เข้ามาดึงไม่บ่อยพอ ก็อาจเกิดการพลาดกระทู้ได้ วิธีแก้ก็แค่เพิ่ม parameter เข้าไปที่ Default Feed URL ดังข้างล่าง http://www.simplemachines.org/community/index.php?type=rss;action=.xml;sa=news;limit=200 เพียงเท่านี้เราก็จะดึง Feed ของ SMF ครั้งละ 200 topics แล้ว ป.ล. เท่าที่ลองมาหลายเว็บที่ใช้ SMF การเพิ่มตัวเลขให้มากกว่า 200 ไม่มีประโยชน์อะไรเลย เว็บส่วนใหญ่จะคืนค่าที่ประมาณ 140-160 items เอาไว้ผมจะลองตรวจสอบดูอีกทีว่าตัวเลขนี้มีการกำหนดไว้ตรงไหน
ต้องยอมรับว่าปัจจุบัน SMF น่าจะเป็น Forum ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด (แต่ไม่ได้หายความว่าดีที่สุดนะ) ทำอันดับใน Search Engine ก็เก่ง และมี Feed ในตัวก่อนเจ้าไหนๆ เช่น PhpBB เป็นต้น โดย default ของ SMF นั้น Feed ของมัน ไม่ว่าจะรวมกระทู้ทั้งเว็บ หรือเฉพาะบางห้องที่กำหนดก็ตาม มันจะแสดง Recent Posts ทั้งหมด นั้นรวมไปถึง New Topics และ New Reply ด้วย ซึ่งบางครั้งน่ารำคาญมากกับกระทู้ประเภท “มีของมแจกครับ ทิ้งเมลไว้เลย” เพราะ Reply จะล้นหลามมาก ส่งผลได้ Feed ไร้สาระเยอะ วิธีแก้ก็แค่เพิ่ม parameter เข้าไปที่ Default Feed URL ดังข้างล่าง http://www.simplemachines.org/community/index.php?type=rss;action=.xml;sa=news เพียงเท่านี้เราก็จะดึง Feed…
สำหรับใครที่ใช้ Drupal มาคงทราบว่ามันฉลาดมาก ไม่ว่าเราจะย้าย directory ไปไว้ที ่root ของ domain เช่น http://192.168.1.10 หรือจะใน subdirectory เช่น http://192.168.1.10/drupal เราก็ไม่ต้องแก้ไข config อะไรเลย มันรู้ของมันเอง!! แต่มาวันนี้ผมเจอ case ประหลาดครับ พอดี domain ของลูกค้ายังไม่พร้อม production URL ก็เลยเป็น direct URL แบบนี้ชั่วคราว http://192.168.1.10/~myuser ปรากฏว่าหน้าแรกเข้าได้ปกติ แต่หน้าอื่นเข้าไม่ได้เลย เจอ 404 ตลอด – -!! ตอนแรกคิดว่าสงสัย .htaccess ของ host มันชนกับของ Drupal แน่เลย จึงลองถาม เทพ Drupal ได้วิธีแก้ง่ายๆมาคือแก้ .htaccess ของ Drupal ดังนี้ RewriteBase…
นานๆเจอวันว่างซะที ขอ Capture รูปไว้ซะหน่อย ฮา…
คิดเอาไว้แล้วว่ายังไงจุดแข็งของ Adobe ไม่ได้อยู่ที่มาตรฐาน (SWF) แต่อยู่ที่ Tools (Flash/Flex) มากกว่า สุดท้ายถ้า SWF ถูกมาตรฐานกลางอย่าง HTML5 แซงไป Adobe ก็ยังมีไม้ตายคือ Export จาก Flash เป็น HTML5 ได้อยู่ดี เหมือนกับ Dreamweaver ที่เป็น Editor สำหรับ HTML/CSS ที่น่าแปลกใจคือผมไม่คิดว่า Adobe จะออกมาแสดงท่าทีสนับสนุน HTML5 ไวขนาดนี้ (มาพร้อมกับ Flash CS5) ผมนึกว่าจะรอดูท่าทีก่อนว่าถ้านิยมค่อยปล่อยเป็นตัวเสริมอีกที มองอีกมุมหนึ่ง Adobe คงอ่านเกมแล้วว่า ยังไงคงหยุดกระแส HTML5 ไม่อยู่แน่ๆ เพราะ Google กับ Apple ดันเหลือเกิน ไหนจะ Mozilla อีก การเข้าแย่งชิงพื้นที่ HTML5 Tools จึงดูน่าสนใจและน่าจะทำกำไรได้มากกว่าการแข่งด้วย Platform/Format…
สองสามวันมานี้อดหลับอดนอนเพราะเรื่องการย้าย Web Hosting นี่แหละครับ ขอจดไว้หน่อยว่าทำอะไรไปบ้าง (ผม admin มือสมัครเล่นครับ) – ถ้าเว็บมี maintenance mode จงเปิดมันก่อนเลย – เปลี่ยน NAME SERVER ทันที เพราะบางที DNS มันก็อัพเดทกันช้าเหลือเกิน – การ load dump ของ MySQL นั้น ถ้าไม่ใหญ่มากก็ใช้ phpMyAdmin ได้ แต่ถ้าใหญ่มากๆควรใข้ BigDump แทน หรือถ้าจะเอาเป็นเรื่องเป็นราวเลยก็ต้อง MySQLDumper – เรื่องภาษาไทย ที่ไม่ว่า Programmer/Developer รุ่นไหนๆก็ต้องเจอ ฮา… ถ้า default charset ของ mysql (ซึ่งส่วนมากจะเป็น utf8) ไม่ได้เป็นตัวเดียวกับที่เราใช้ก็ต้องเพิ่ม code นี้ mysql_query(“SET NAMES tis620”,…
พอดีเมื่อวานนี้มีเพื่อนถามมาทาง MSN ว่าเว็บมีปัญหาใช้ภาษาไทยกับ AJAX ไม่ได้ คือส่งภาษาไทยไปแล้ว อ่านไม่ออกใน MySQL ส่วนตัวนั้นมีประสบการณ์เกี่ยวกับปัญหาภาษาไทยมาบ้าง ถึงจะไม่มาก แต่ก็พอจะมั่นใจได้ว่า AJAX ไม่น่ามีปัญหากับภาษาไทย แต่มันไม่ใช่กับกรณีนี้ มาดูกันที่ส่วนประกอบต่างๆกันก่อน Web Page (TIS-620) + AJAX (TIS-620) <–> PHP(TIS-620) <–> MySQL (TIS-620) ดูๆจากข้างต้นก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร อย่างแรกผมเอา FireBug จับ XHR ดูก่อนเลย เป็น HTTP Post และพบว่าอ่านไทยไม่ออกครับ ผมแปลกใจมากๆ ทั้งๆที่ Header บอกว่า charset เป็น TIS-620 ลองถาม Google ดูจึงพบว่า AJAX มีปัญหากับ TIS-620 จริงๆด้วย เพราะมันส่งเป็น UTF-8 (จริงๆมีวิธีเปลี่ยนแต่ค่อนข้างยุ่งยาก) ดังนั้นภาพข้างบนจึงผิด จริงๆต้องเป็นแบบนี้…