หงส์แดงแซงโค้ง
คอลัมน์ คุยนอกจอ
โดย เอกราช เก่งทุกทาง
มติชน
การต่อสู้ของทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้เต็มไปด้วยสีสัน ชีวิตพลิกไปพลิกมา และไม่ว่าใครก็เดาไม่ออกว่าจะจบยังไง
เรื่องความไม่แน่นอน อาจจะเป็นส่วนหนึ่งในคาแรคเตอร์ของลิเวอร์พูลยุค ราฟา เบนิเตซ ก็จริง แต่ผมว่าไม่มีปีไหนล้มๆ ลุกๆ เท่าปีนี้
หงส์แดงเริ่มต้นอย่างน่าผิดหวัง ทำท่าจะหมดลุ้นแชมป์บอลลีกตั้งแต่ 3 เดือนแรกของฤดูกาล แถมตกรอบบอลถ้วยในประเทศแบบน่าอาย
ความพ่ายแพ้ต่ออาร์เซน่อลทั้งในเอฟ เอ คัพ และคาร์ลิ่งคัพ สองนัดโดนยิงรวมกัน 9 ประตู ทำให้สถานการณ์ของทีมจากแอนฟิลด์ตกต่ำถึงขีดสุด เครดิตที่พอมีอยู่ทั้งสโมสร นักเตะ รวมทั้งกุนซือแทบจะหายเกลี้ยงไปพร้อมๆ กัน
ช่วงนั้นลิเวอร์พูลคือ ตัวตลกของพรีเมียร์ลีกอย่างแท้จริง
ใครจะไปรู้ว่านั่นเป็นจุดเปลี่ยนจากนรกสู่สวรรค์ในเวลานี้แค่ไม่กี่วัน
เมื่อชีวิตตกต่ำถึงขีดสุด คนบางคนอาจจะหมดอาลัยตายอยาก ปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้หลุดไปตามชะตากรรม
ถ้าเป็นทีมฟุตบอล มาตรฐานต่ำสักทีมก็คงถอดใจ ไม่สู้ ไม่เอา รอเวลาตกชั้น ก่อนจะโยกย้ายเปลี่ยนค่ายตัวใครตัวมันไปตามเรื่อง
แต่ลิเวอร์พูลกลับนิ่ง อยู่เฉยๆ รอเวลาลงเตะนัดต่อมาอย่างจดจ่อเพื่อแก้ตัว พิสูจน์ตัวเองตามวิถีทางของมืออาชีพ
หลังจากแพ้อาร์เซน่อลคาบ้าน 3-6 อีกสามวันต่อมา หงส์แดงก็บุกไปถล่มวัตฟอร์ด ตามด้วยเก็บเชลซี กับ เวสต์แฮม เรียกความเชื่อมั่นกลับสู่ทีมอย่างรวดเร็ว พอๆ กับความเชื่อถือในสายตาแฟนบอล
เรื่องนี้ต้องยกเครดิตให้กุนซือ ราฟา เบนิเตซ นะครับ
ผมเองอาจจะไม่ชอบนโยบายเปลี่ยนทีมตามใจฉันของราฟา แต่ก็ต้องยอมรับว่า เขา “เอาอยู่” ในเวลาที่ทีมย่ำแย่ มิหนำซ้ำพลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้อย่างยอดเยี่ยม
เกมกลับมาชนะวัตฟอร์ดคือ การผ่านจุดที่เปราะบางที่สุดมาแบบเฉียดฉิว เพราะถ้าพลาดในวันนั้น ความเชื่อมั่นของนักเตะมีสิทธิแตกสลาย สโมสรก็จะโดนเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสารพัดสื่อ รุมกระหน่ำซ้ำดูไม่จืด
แต่เมื่อเอาชนะด้วยฟอร์มที่งดงาม หงส์แดงก็ตีปีกติดลมบน ถ้านับเฉพาะผลงานในลีก ลูกทีมของราฟา ชนะมา 5 นัดติดต่อกันเข้าไปแล้ว
เสาร์นี้ ลิเวอร์พูลต้องเปิดศึกเมอร์ซีไซด์ดาร์บี้ นัดที่ 205 กับ เอฟเวอร์ตัน ถ้ายังฟัน 3 แต้มได้อีก ก็จะเป็นไฮไลต์อีกจุดที่สำคัญมากๆ
มันอาจจะช่วยต่อยอด นำทีมหงส์แดง อัพเกรดขึ้นไปท้าทายความสำเร็จอีกระดับหนึ่ง ซึ่งใครต่อใครคาดไม่ถึง
อาจจะเป็นการแย่งอันดับสองจากเชลซี หรือแมนฯยู
อาจจะเป็นการสปีดขึ้นไปลุ้นแชมป์ยุโรป…แชมเปี้ยนส์ลีก!
เรื่องนี้ไม่ได้เขียนขึ้นมาขำๆ แต่อยากเปิดประเด็นให้คิดและลุ้นกันต่อ เพราะใครๆ ก็รู้ว่า ทีมอย่างลิเวอร์พูลทำได้ทุกอย่างในวันของตัวเอง ยิ่งถ้ามีวาสนาช่วยส่งอีกหน่อยยิ่งถึงไหนถึงกัน
หงส์แดงกำลังคึก กุนซือราฟาสั่งให้เล่นระบบไหนก็ลื่นไหลไปหมด แม้จะเป็นหมาก 3-4-3 ส่ง ไคต์-เคร้าช์-เบลลามี่ ลงบุกพร้อมกัน 3 คน ก็ยังดูดีอย่างไม่น่าเชื่อ แถม โมโม่ ซิสโซโก้ มิดฟิลด์ตัวรับยังหายเจ็บพร้อมลงสนามอีกต่างหาก
อีกเรื่องที่เป็นแรงจูงใจคือ มันถึงเวลาชำระแค้นที่เคยโดนท็อฟฟี่ถล่มยับ 3-0 กันแล้ว!